หลายคนคิดว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่าย เงียบ สะอาด และไม่ยุ่งยาก แต่ความจริงคือ ถ้าจะเลี้ยงแมวให้ดีและถูกต้อง ก็ต้องใส่ใจในรายละเอียดมากกว่าที่คิด หากมองข้ามเรื่องสำคัญ อาจทำให้แมวเจ็บป่วยหรือเครียดได้ เราขอแนะนำ 8 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้แมวของคุณเติบโตอย่างแข็งแรงและมีความสุข
1. สุขภาพจิตต้องมาก่อน — อย่ามองข้ามความรู้สึกของแมว
แม้อาจดูเงียบและไม่แสดงออกเท่าสุนัข แต่แมวก็มีอารมณ์ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน ถ้าถูกละเลยหรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ตึงเครียด อาจทำให้แมววิตกกังวลหรือแสดงพฤติกรรมแปลก ๆ
ควรเล่นกับแมวทุกวัน เช่น ใช้ของเล่น ไม้ล่อ แปรงขน หรือการลูบเบา ๆ เพื่อให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย และจัดมุมส่วนตัวให้แมวมีที่พักผ่อนที่รู้สึกปลอดภัย
2. การเล่นคือการออกกำลังกาย — อย่าปล่อยให้แมวเฉื่อยชา
แมวที่ไม่เคลื่อนไหวมากจะเสี่ยงต่อโรคอ้วน และปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดี
ควรจัดเวลาเล่นวันละ 15–20 นาที โดยใช้ของเล่นที่กระตุ้นสัญชาตญาณการล่า เช่น ลูกบอล เลเซอร์ หรือไม้ตกแมว ถ้าเป็นไปได้ ให้ติดตั้งลู่วิ่งหรือของเล่นอัตโนมัติเพื่อให้แมวได้ขยับตัวเอง
3. วัคซีนและการตรวจสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็น
แมวควรได้รับวัคซีนพื้นฐานตั้งแต่ยังเล็ก เช่น วัคซีนรวมและวัคซีนพิษสุนัขบ้า และควรตรวจสุขภาพประจำปี
หากแมวมีอาการเบื่ออาหาร ซึม อาเจียน หรือจามบ่อย ๆ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ อย่าปล่อยไว้
4. แคทบ็อกซ์สะอาด แมวถึงจะยอมใช้
แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด ถ้ากล่องทรายสกปรก แมวอาจไม่ยอมใช้เลย ควรตักของเสียทุกวัน เปลี่ยนทรายทุกสัปดาห์ และล้างกล่องเป็นประจำ
บ้านควรถ่ายเทอากาศได้ดี ลดกลิ่นอับและเชื้อโรคทางเดินหายใจ
5. น้ำต้องสะอาดและสดใหม่เสมอ
แมวดื่มน้ำน้อยโดยธรรมชาติ หากน้ำไม่สะอาดหรือไม่ไหลเวียน อาจทำให้แมวไม่ดื่มเลย
แนะนำให้ใช้เครื่องให้น้ำแบบพุเพื่อกระตุ้นความสนใจ ควรเปลี่ยนน้ำทุกวันและล้างถ้วยน้ำให้สะอาด
6. ควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม ป้องกันแมวอ้วน
แมวที่อยู่อาศัยในบ้านมักเคลื่อนไหวน้อย ถ้าให้อาหารไม่เหมาะสม อาจทำให้อ้วน ซึ่งนำไปสู่โรคร้ายแรง
ให้อาหารเม็ดคุณภาพดีเป็นหลัก อาจเสริมด้วยอกไก่ต้ม หรืออาหารเปียก หลีกเลี่ยงขนมและอาหารมนุษย์ โดยเฉพาะอาหารเค็มหรือมีเครื่องปรุง
7. ดูแลขน เล็บ และหู อย่างสม่ำเสมอ
แมวสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะละเลยมันได้โดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะแมวขนยาว จำเป็นต้องแปรงขนเป็นประจำเพื่อป้องกันขนพันกัน
แมวขนยาวควรแปรงขนเป็นประจำเพื่อไม่ให้พันกัน ควรตัดเล็บทุก 2–3 สัปดาห์ และตรวจดูหูว่าไม่มีกลิ่นหรือของเหลวผิดปกติ
8. เลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
แมวเป็นสัตว์กินเนื้อ จำเป็นต้องได้รับโปรตีนสูงจากเนื้อสัตว์ ควรเลือกอาหารที่ระบุว่าใช้เนื้อไก่หรือปลาเป็นวัตถุดิบหลัก
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีธัญพืชมากหรือมีสารปรุงแต่งรสจำนวนมาก เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
การเลี้ยงแมวไม่ใช่แค่การให้อาหารหรือดูแลพื้นฐานเท่านั้น แต่คือการให้ความรัก ความใส่ใจ และความรับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง หากคุณทำตามทั้ง 8 ข้อนี้ได้ แมวของคุณจะมีสุขภาพดี ร่าเริง และอยู่กับคุณไปอีกนานหลายปี
